Blue Wings - Working In Background Blue Wings - Working In Background

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความรักของอีรอสกับไซคี

 เนื่องจากมีสาวชาวมนุษย์อยู่คนหนึ่งมีชื่อว่า"ไซคี"ที่ร่ำลือกันว่างามมาก งามจนองค์เทวีเองยังเทียบไม่ได้อะโฟรไดตี(http://greekbybam.blogspot.com/2015/09/blog-post_65.html#more)ก็เลยเป็นอันกริ้วจัดสั่งให้อีรอสบุตรของตนเองไปทำให้นางต้องพบรักแล้วอกหักให้ได้
อีรอสคนนี้ก็คือที่ชาวโรมันเรียกกันว่าคิวปิดนั่นแหละ(http://greekbybam.blogspot.com/2015/09/blog-post_24.html) อีรอสมีศรธนูอยู่จำนวนหนึ่งแผลงใส่ใครคนนั้นก็จะตกหลุมรักกับคนแรกที่ตนเองพบ 
      อีรอสใช้อำนาจเทพของตนทำให้ล่องหนแล้วบินรี่ไปหาไซคี จะแอบใช้ศรจิ้มขณะนางหลับ ปรากฏว่าตอนกำลังจะจิ้มเห็นนางพลิกตัวพอดีอีรอสเลยตกใจทำศรหล่นโดนตัวเองเข้า อีรอสเลยตกหลุมรักนางไซคีไปซะเอง กล่าวถึงบิดาของนางไซคีเห็นว่าลูกสาวของตนก็มีอายุสมควรแก่การสมรสแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ามาสู่ขอเสียที  จึงไปรับคำพยากรณ์มาจากมิเลทุส ผลการพยากรณ์ออกมาว่าต้องนำนางไปทิ้งไว้ในภูเขา แล้วจะมีอสุรกายมารับเอานางไปเป็นภรรยา บิดาและพี่สาว 2 คนของนางก็ร่ำไห้เสียใจเป็นอย่างยิ่งแต่ก็ไม่กล้าขัดคำพยากรณ์  ไซคียืนรออยู่บนเขาอย่างโดดเดี่ยวสักพักใหญ่ก็ถูกเทพเซฟเฟอรุส เทพเจ้าแห่งสายลมตะวันตกพัดพาจากเขาไป แต่แทนที่จะเป็นถ้ำมืดอับอย่างที่นางคิด สถานที่ที่นางถูกพาไปกลับกลายเป็นราชวังที่ยิ่งใหญ่กว่าวังของบิดานางซึ่งเป็นกษัตริย์เสียอีก เมื่อนางต้องการสิ่งใดก็จะมีผู้รับใช้ล่องหนคอยปรนนิบัติ และอาหารที่นางรับทานก็มีรสโอชายิ่งกว่ามื้อใดที่นางเคยทาน
       คืนแรกนางก็ได้พบกับผู้ที่จะมาเป็นสวามีนาง แต่ก็สามารถเห็นเขาเป็นเพียงเงาลางๆ เท่านั้น ร่างกายของเขาสามารถมองเห็นได้แต่ในเวลากลางคืน และจะล่องหนในเวลากลางวัน เขาบอกนางว่าวังนี้เป็นของนาง และสารภาพรักกับนาง ทุกๆ คืนเขาจะปรากฏตัวมาพบกับนาง แต่ก็จะจากไปในยามเช้า ทีแรกไซคีเกรงกลัวคนรักล่องหนของนาง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มหลงรักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นางยังไม่เคยเห็นหน้าเขา หรือรู้ชื่อของเขาเลย
       ไซคีตั้งครรภ์ในที่สุด คนรักลึกลับได้บอกเอาไว้ว่าถ้านางเห็นหน้าเขา บุตรนี้จะเป็นมรรตัย  แต่หากนางไม่ได้เห็นเขาเลยจนกระทั่งบุตรของนางคลอด บุตรนี้ก็จะเป็นอมตะ ไซคีไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องนี้ และเมื่อนางต้องพรากจากครอบครัวมาเป็นเวลานานก็ไม่ได้ขออะไรจากเขานอกจากให้ได้พบกับพี่สาวของนางบ้าง คนรักล่องหนของนางกลัวว่านางจะเหงาจึงยินยอมพาพี่สาวของนางมาพบบ้างเป็นบางโอกาส นางทั้งสองของไซคีเมื่อได้มาพบกับวังอันโอ่อ่าก็อิจฉานางเป็นที่ยิ่ง นางคิดว่าหากสวามีของไซคีทอดทิ้งนางไปเมื่อใดก็จะมาสู่ขอตนแทน เมื่อทราบว่าไซคียังไม่เคยเห็นสวามีนางเลยจึงยุแก่ไซคีว่าเธอควรจะหาโอกาสแอบดูร่างกายที่แท้จริงของเขาสักครั้งหนึ่ง เพราะคนรักของนางที่แท้จริงแล้วอาจจะเป็นอสุรกายก็เป็นได้ ถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็ควรจะสังหารเขาแล้วหลบหนีออกมา ไซคีก็เชื่อ คืนนั้นนางจึงแอบเอาตะเกียงกับมีดอีกเล่มหนึ่งลอบดูหน้าคนรักล่องหนของนาง แต่แทนที่จะเห็นเป็นอสุรกายน่าเกลียดน่ากลัวนางก็พบว่าเขาเป็นชาวหนุ่มรูปงามคนหนึ่งซึ่งมีปีกสีทอง คืออีรอสนั่นเอง
       แต่อีรอสก็รู้สึกตัวในทันที เมื่อรู้ตัวว่าถูกนางไซคีเห็นเสียแล้วก็ได้กล่าวแก่นางว่า "ความรักและความแคลงใจไม่อาจอยู่ร่วมกันได้" แล้วก็บินกลับไปยังโอลิมปัส ไซคีเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้ทำเช่นนั้น และมุ่งมั่นจะต้องตามหาอีรอสให้พบอีกครั้งให้ได้ เพราะนางก็รักเขาเสียแล้ว ฝ่ายพี่สาวทั้งสองของนางเมื่อทราบว่าสวามีของไซคีได้จากไปแล้วก็กระโดดลงจากหน้าผาทันที หวังจะให้เทพเซฟเฟอรุสมารับไปวังศักดิ์สิทธิ์ แต่ปรากฏว่างวดนี้เทพเซฟเฟอรุสไม่มารับเลยตกผาตายทั้งสองคน
      ไซคีตำหนิตัวเองที่ไม่เชื่อใจสวามีของตนจนต้องสูญเสียอีรอสไปเพียงเพราะความสงสัย เธอต้องการอีรอสกลับคืนมาจึงเฝ้าภาวนาต่อเทวีเฮร่าและเทวีดีมีเทอร์ หากแต่ก็ไม่มีคำตอบจากเหล่าเทพเจ้า และอีรอสก็ไม่ได้กลับมาหานาง เธอจึงคิดว่าหากยอมไปเป็นข้ารับใช้ของเทวีอะโฟรไดตีซึ่งเป็นมารดาของอีรอสแล้วล่ะก็ เขาอาจจะพอใจและกลับมาหานางก็เป็นได้
แต่ไซคีไม่รู้ว่าอะโฟรไดตีนั้นโกรธเกลียดตนเองเท่าใด นอกจากการที่ผู้คนหันมาบูชานางแทนองค์เทวีแล้ว เมื่อเทวีสั่งให้อีรอสมาทำให้นางเกิดความรักขึ้นเขากลับมารักนางเสียเองอีก ยิ่งทำให้อะโฟรไดตีโกรธนางมากขึ้นเป็นทวีคูณ อะโฟรไดตีใช้งานไซคีอย่างหนัก และบ่อยครั้งเป็นภารกิจที่ไม่สามารถจะเป็นไปได้ แต่ไซคีก็จะได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์เล็กต่างๆ จนสามารถทำตามคำสั่งได้หมดทุกครั้ง  อะโฟรไดตีโกรธมาก จึงสั่งให้นางไปเอากล่องใส่ความงาม มาจากเทวีเพอร์เซโฟเน่ ชายาเจ้านรกเฮเดส ไซคีเสียใจมาก เพราะไม่มีมรรตัยใดจะสามารถไปยังปรโลกแล้วกลับมาได้อีก นางคิดว่าหากนางไม่สามารถจะทำให้อีรอสกลับมาหานางได้แล้วสู้ยอมตายเสียดีกว่า จึงขึ้นไปบนยอดหอคอยหวังจะฆ่าตัวตาย แต่ปรากฏว่าหอคอยนั้นกลับกล่าวแก่นางถึงวิธีที่จะทำให้ภารกิจนั้นลุล่วงไปได้  อย่างไรก็ตามหอคอยได้กำชับแก่นางว่าอย่าเปิดกล่องที่ได้รับมาจากเพอร์เซโฟเน่เป็นอันขาด
      ไซคีลงไปยังโลกใต้พิภพ จ่ายค่าผ่านทางแก่ชารอนคนแจวเรือข้ามแม่น้ำสติกซ์เอาขนมเค้กน้ำผึ้งไปให้เซอร์บีรุสกิน เพื่อที่ว่านางจะได้ผ่านประตูนรกไปได้ เมื่อนางมาถึงวิมานขอเฮเดสแล้วก็ทำตามที่หอคอยแนะนำทุกอย่าง ไม่นั่งบนเก้าอี้ และเลือกกินแต่เพียงขนมปังเท่านั้นโดยปฏิเสธอาหารอย่างอื่น
ในที่สุดนางก็ได้กล่องใส่ความงามของเทวีเพอร์เซโฟนี่(http://greekbybam.blogspot.com/2015/09/blog-post_24.html)มา นางเดินทางกลับทางเดิมโดยให้ขนมอีกชิ้นแก่เซอร์บีรุสและจ่ายให้ชารอนอีกหนึ่งเหรียญ แต่เมื่อนางกลับออกมาจากโลกใต้พิภพได้แล้วความสงสัยของนางก็ทำเรื่องอีกจนได้ นางอยากจะรู้ว่าความงามของเหล่าเทพเจ้าเป็นอย่างไร และอยากจะลองใช้เองบ้างสักนิดหนึ่งเผื่ออีรอสจะพึงพอใจนางจึงเปิดกล่องออก แต่ทันทีที่กล่องถูกเปิดออกนางก็ตกอยู่ในห้วงนิทรา  
ฝ่ายอีรอสเมื่อเวลาผ่านไปก็ลืมความโกรธที่มีต่อไซคีไปสิ้น เขารีบบินออกตามหาไซคี และในที่สุดก็มาพบนางที่นอนสลบไสลอยู่จึงปลุกนางขึ้นมา ไซคีดีใจมากที่พบหน้าอีรอสและอีรอสก็ได้ให้อภัยนางแล้ว ไซคีนำกล่องไปให้เพอร์เซโฟเน่ ส่วนอีรอสก็ไปขอร้องให้ซูสทำให้นางกลายเป็นอมตะอยู่ร่วมกับเหล่าทวยเทพ ซูสยินยอม แล้วอีรอสกับไซคีก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนับแต่นั้นมา

3 ความคิดเห็น: